ชีวิตคือการเดินทางความสุขที่ได้พบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดและหวังว่าจะได้พบเจอ

วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Koh Hong Krabi


 

  วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวหมู่เกาะห้ิองกันครับ พอดีได้ออกจากอีสานมาอยู่ใต้แบบว่าติดเกาะกันเลยทีเดียว ย้ายมาทำงานที่นี้มีโอกาศวันหยุดเลยนัดกับเพื่อนที่ทำงานด้วยกันว่าวันหยุด นี้เราจะไปคลายเครียดด้วยการนั้งเรือหางยาว ไปเที่ยวเกาะดำน้ำตากแดดให้ดำกันไปเลย 5555

ถึงเวลาเช้าวันเดินทางอากาศรู้สึกเหมือนครึ้มฟ้าครึ้มฝนใจไม่ดีและคิดว่า จะนอนต่ออากาศน่านอนมากกว่าจะไปทะเลแน่ๆๆ แต่ก็ต้องรีบเด้งออกจากทีนอนเพราะเสียงเรียกของเพื่อนๆ คิดในใจอากาศแบบนี้มันยังจะไป ! โอเคๆๆๆไปก็ไป

 
















วันนี้เราออกเดินทางสายหน่อยเพราะไม่แน่ใจกับอากาศที่แปรปรวนใช้เวลาในการ เตรียมอุปกรณ์สั่งข้าวกล่องพร้อมเราก็พร้อมจะเดินทางกันแล้ว เรานัดกับลุงเจ้าของเรือไว้ที่ท่าเรือคลองเหีย '' ท่าเรือข้ามไปเกาะยาวน้อย

 เอ้อ! ลืมบอกว่าเราทำงานกันที่เกาะยาวใหญ่ ชื่อนี้ใครๆอาจจะยังไม่ค่อยจะรู้จักเพราะเป็นเกาะที่ยังเงียบสงบและยังไม่ เจริญแต่มีแหล่งท่องเที่ยวชายหาดสวยๆ แหล่งท่องเที่ยวยอกฮิต ใกล้ๆคงนี้ไม่พ้นเกาะไข่ในเกาะใขนอก เป็นเกาะเล็กๆที่อยู่ใกล้กับภูเก็ต คนมาเที่ยวภูเก็ตต้องลองมาสักครั้ง 
แต่วันนี้เราจะไปเกาะห้องกัน
เราเหมาเรือทั้งวันราคาคนกันเอง เช้ายันเย็น 2000บาทอุปกรณ์เสริมครบแล้วก็ไปกันเลย

หมู่เกาะเหลาบิเละ (หมู่เกาะห้อง) ประกอบด้วย เกาะเล็ก เกาะน้อย จำนวน 12 เกาะ มีเกาะห้องเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีจุดเด่นอยู่ที่อ่าวบิเละ อ่าวห้อง

อ่าวบิเละ เป็นหาดทรายขาวละเอียด แนวหาดโค้งแบ่งเป็นสองช่วง คล้ายปีกนกคั่นด้วยก้อนหินใหญ่ น้ำทะเลใสจนมองเห็นปะการังน้ำตื้น เหมาะสำหรับเล่นน้ำชมปะการัง
 
อ่าวห้อง อีกด่านหนึ่งของเกาะห้อง มีลักษณะเป็นสระธรรมชาติ ล้อมด้วยเขาหินสูงชันเกือบรอบด้าน ช่วงน้ำขึ้นสามารถนำเรือเข้าไปชมความงามของธรรมชาติด้านในได้ น้ำใสสะอาดสามารถลงเล่นน้ำได้

 

 ด้านหน้าเป็นที่จอดเรือ ไม่นิยมลงเล่นน้ำ ส่วนอีกด้านเหมาะแก่การดำน้ำชมปะการังและฝูงปลาที่ความลึกประมาณ 10-30 ฟุต ด้านเหนือของเกาะมีโค้งอ่าว ด้านในเป็นหาดทรายและป่าชายเลนโอบล้อมด้วยเขาหินปูน ลักษณะคล้ายเป็นห้อง จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะห้อง

เกาะห้องนับเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาว ต่างประเทศนิยมไปเที่ยวกันมาก บนเกาะเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีเวิ้งหาดทรายขาวละเอียด 2 หาด



  สามารถพายเรือคายัคเข้าไปบริเวณภายในได้ ช่วงน้ำลดสามารถเดินเล่นได้สบาย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินป่าเกาะห้องยังมีเส้นทางเดินป่าขึ้นไปสู่จุดชม วิวที่สวยงามด้วยนอกเหนือจากเกาะห้องแล้ว

ยังมีเกาะผักเบี้ยและเกาะเหลาลาดิงที่อยู่ใกล้ๆกัน สองเกาะนี้มีหาดทรายสวยงาม เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ และยังมีเกาะอื่นๆที่สวยงามน่าสนใจอีกหลายเกาะ




สิ่งอำนวยความสะดวก : บนเกาะห้องมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว ห้องสุขา และลานกางเต็นท์ แต่หากต้องการค้างคืนควรขออนุญาตจากอุทยานจากอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีก่อน นะครับ"



Phuthapboek


ภูทับเบิก เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่ใครได้ไปแล้วจะต้องอยากไปอีก เพราะติดใจในบรรยากาศความงามของขุนเขาเคล้าสายหมอก ความหนาวเย็นชื่นใจในอากาศ


แถมช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงที่น่าสนใจอีกช่วงของภูทับเบิกเลยทีเดียว ถ้าใครยังไม่เคยเที่ยวภูทับเบิก
ช่วงฤดูฝนหรือปลายฝนต้นหนาว ก็คงไม่รู้ว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ภูเขาสวยที่สุดแล้ว 
อยากไปเที่ยวภูทับเบิกกันบ้างแล้วล่ะสิ  ถ้าเตรียมจัดกระเป๋าและพร้อมเดินทางกันแล้ว
 ก็ไปเที่ยว "ภูทับเบิก" กันเลย!!

ปลายฝนต้นหนาวชาวบ้านก็มักจะนิยมปลูกกะหล่ำปลีกัน ซึ่งภูทับเบิกนับเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลี
ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยที เดียว  โดยปัจจุบันชาวเขาเผ่าม้งจะนิยมปลูกกะหล่ำปลี
อยู่  2  ช่วงคือ  ช่วงเดือน ก.ค. - ต.ค.  และเดือน พ.ย. - ม.ค.  สาเหตุเพราะในช่วงเวลานี้กะหล่ำปลี
จะสวยงามที่สุด  เนื่องมาจากได้รับน้ำค้างจากหมอกหนานั่นเองครับ
 การเดินทางขึ้นภูทับเบิกของผม  ใช้เวลานานพอสมควร  เพราะถนนค่อนข้างจะคดเคี้ยวและบางช่วงก็ลาดชัน  เราจึงต้องขับรถอย่างช้า ๆ   วิวสองข้างทางที่ขนาบข้างถนนเส้นนี้  เป็นฉากในการถ่ายภาพ
ที่สวยสุด ๆ 

ตั้งแต่  06.00 น.- 09.00 น. เป็นช่วงเวลาที่กำลังเหมาะในการมายืนรับลม  ชมหมอก  บน  ยอดภูทับเบิก    คุณจะได้ชมทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงาม   
ทั้งกลุ่มเมฆหนาที่คลอเคลียไปกับยอดเขาสีเขียว  ในขณะที่บางส่วนก็กระจายตัวเป็นละอองหมอกคละคลุ้งอยู่รอบ ๆ ตัวเรา  พร้อมกับแปลงกะหล่ำปลีที่ไกลสุดลูกหูลูกตา  ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมสารพัดกล้องให้พร้อมกับการเก็บภาพ  จากนั้นจึงค่อยนั่งซึมซับบรรยากาศที่หนาวเย็นไปจนกว่าแสงแดด จะมากล่าวทักทาย  ก็ช่วงสาย ๆ โน่นแหละครับ 




วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Khao Kho District

ทะเลหมอกบนเขาค้อ บริเวณที่เกิดทะเลหมอกบนเขาค้อ คือบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย ซึ่งอยู่ด้านล่างของถนนเส้นทางหลักสาย 2196 บริเวณใกล้ๆ กับที่ทำการอำเภอเขาค้อ สามารถชมทะเลหมอกได้เป็นระยะทางค่อนข้างยาวไกล ในช่วงเช้า ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ถึงเวลาประมาณ 8 โมงเช้า จุดที่นิยมไปชมกันมากที่สุด
นอก จากนี้ ยังมีรีสอร์ทอีกหลายแห่ง ที่สามารถพักแรมในบ้านพัก หรือกางเต็นท์นอน เพื่อชมทะเลหมอกยามเช้า ที่หน้าบ้านกันเลย ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณจุดชมทะเลหมอกริมถนนสาย 2196 นี้ บางรีสอร์ทอาจต้องเข้าซอย หรืออยู่ต่ำลงไปอีกนิดหนึ่ง แต่ก็สามารถชมทะเลหมอกได้เช่นกัน 
บางวันที่มีหมอกหนาแน่น รีสอร์ทที่อยู่ต่ำ ก็จะถูกหมอกคลุม กลายเป็นส่วนหนึ่งของทะเลหมอก 
 เป็นบ้านในสายหมอก ได้บรรยากาศไปอีกแบบ






Phu Kradueng National Park


ว่ากันว่า....หากอยากพิสูจน์รักแท้ ให้พาคนที่เรารักไปร่วมพิสูจน์รักด้วยการเดินทางพิชิตยอดภูของอุทยานแห่ง ชาติภูกระดึง การที่เราจะขึ้นไปถึงยอดดอยได้ ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร
คือขึ้นเขา 5 กิโลเมตร บวกทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร   


ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตรจากระดับน้ำทะเล

 
สภาพทั่วไปของภูกระดึง ประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด พันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปี บนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยว ปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึง สักครั้งหนึ่งในชีวิต
สำหรับการ เดินทางขึ้นภูกระดึงนั้น ทางอุทยานฯ จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นได้ตั้งแต่เวลา 07.00 - 14.00 น. ของทุกวัน และหลังจากเวลา 14.00 น. เป็นต้นไป ทางอุทยานฯ จะไม่อนุญาต เพราะระยะทางในการเดินทางขึ้นเขาต้องใช้เวลาในการเดินเท้า ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงกับเวลาพลบค่ำในระหว่างทาง ดังนั้น อาจจะทำให้เกิดความยากลำบาก อีกทั้งอาจได้รับอันตรายจากสัตว์ป่าที่ออกหากินในเวลากลางคืนอีกด้วย


          อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย จะเปิดฤดูท่องเที่ยวอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 - 31 พฤษภาคม 2557 หลังปิดฟื้นฟูในช่วงฤดูฝน